Fan Fiction: Axis Powers Hetalia
Pairing: อเมริกา x อังกฤษ
Note: Axis Powers Hetalia เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น โดยตัวละครอิงมาจากประเทศต่างๆในโลก ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่อ่อนไหวด้านชาตินิยม
อเมริกาเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีไปตามทางเดินพื้นอิฐที่มีผู้คนเดินสวนไปมาพลุกพล่าน เสียงเพลงของเขาทำให้ชาวอังกฤษโดยรอบมองมายังชายหนุ่มด้วยสายตาแฝงการตำหนิ แต่ประเทศหนุ่มไม่ได้สนใจมันเลยแม้แต่น้อย…
เพราะวันนี้เป็นวันดี!
หลังจากทำงานตรากตรำติดต่อกันเกือบเดือนในที่สุดอก็ได้หยุดพัก ตอนทำงานเขาอยากจะหนีออกมาแทบตาย แต่เจ้านายดันสั่งห้ามไม่ให้มีไฟท์บินไหนพาออกนอกประเทศ โทรศัพท์ก็ห้ามใช้ แถมยังให้ทหารมาคุมเข้มรอบทำเนียบขาวกันเขาหนีอีก
เพราะเหตุนี้เลยไม่เจออังกฤษตั้งเกือบเดือน
แต่… เวลาที่เหมือนนรกนั่นก็ผ่านมาแล้ว ช่วงวันหยุดนี่แหละ เขาจะสวีทหวานกับอังกฤษให้เต็มอิ่มเลย ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ยิ่งคิดรอยยิ้มก็ยิ่งผุดขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ อเมริการีบสาวเท้าเดินไวขึ้นเมื่อเห็นรั้วคุ้นตาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แค่คิดว่าจะได้‘กอด’อังกฤษก็รู้สึกดีเป็นบ้าแล้ว!
ไม่ได้เจอฮีโร่ตั้งนาน ตาลุงนั่นจะโดดกอดเขาทันทีที่เจอหน้ารึเปล่านะ
“อเมริกา อาเธอร์มันงอนฉัน!”
“ฮะ?”
ดวงตาสีท้องฟ้ากระพริบปริบๆมองร่างโปร่งที่กำลังยืนกอดอกหน้าตาถมึงทึงตรงหน้าประตู พอไขกุญแจเข้ามาในบ้าน เมื่ออังกฤษเจอหน้าเขาปุ๊ปเจ้าตัวก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาทันที
อาเธอร์คือแมวที่อังกฤษเก็บมาเลี้ยงเมื่อสองเดือนก่อน อังกฤษรักและก็ตามใจมันมากๆ แต่เขาไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่…
แน่แหละ เหตุผลก็เพราะอังกฤษดูรักและเอ็นดูเจ้านั่นมากๆไง
“แล้วเธอไปทำอะไรมันล่ะ?” อเมริกาถามอย่างเนือยๆพลางถอดบูทเก็บเข้าที่
“ฉันก็แค่เปลี่ยนจากอาหารแมวกระป๋องเป็นอาหารที่ฉันทำเท่านั้นเอง” คิ้วหนามุ้นลง ริมฝีปากพุ้ยขึ้นอย่างไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด “แต่อาเธอร์กลับไม่ยอมกิน! แถมยังหนีออกจากบ้านไปไหนก็ไม่รู้!”
อ่า… เข้าใจแล้ว
“เธออย่าไปทรมานมันด้วยการเปลี่ยนอาหารแบบนั้นสิ”
“ว่าไงนะ!”
“เปล๊า” อเมริกาปฏิเสธเสียงสูง เขาพอจะเข้าใจเจ้าอาเธอร์อยู่บ้าง อาหารแมวกระป๋องกับอาหารที่อังกฤษทำ ยังไงๆรูปแบบกระป๋องก็ดีกว่าเห็นๆ แต่เพื่อไม่ให้อังกฤษมาโมโหใส่เขาแทน อเมริกาเลยได้แต่ตีหน้าเศร้าพูดตรงข้ามกับสิ่งที่คิด “เอาน่าๆ เดี๋ยวมันก็กลับมาแหละ เธอใจเย็นๆก่อนนะ”
ร่างหนาตรงเข้ากอดคนรักที่อยู่ในโหมดอารมณ์เสียอย่างปลอบประโลม แต่ในใจกลับยิ้มกริ่ม ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเหมียวจอมแย่งความรักนั่นหายไปแล้ว จากนี้เขาจะได้สวีทหวานกับอังกฤษได้เต็มที่สักที
ไม่ต้องมีแมวที่ไหนมาขัดขวาง เป็นวันหยุดที่ Best จริงๆ!
“วันนี้ฮีโร่…”
“นายน่ะออกไปเลย” นัยน์ตาสีเขียวฉายแววขุ่นเคืองกล่าวขัด อังกฤษออกจากอ้อมแขนจากนั้นก็เดินตรงเข้าไปในห้องรับแขก เขาเดินตามหลังอย่างอารมณ์ดี จนกระทั่งอีกฝ่ายหยิบตุ๊กตายูนิคอร์นบนโซฟาขึ้นมากอด ท่าทีทะนุถนอมทำเอาอเมริกาคิ้วกระตุก
“ตั้งแต่วันนี้ฉันจะกอดแต่แลนเซอร์ล็อต จะให้แลนเซอร์ล็อตขึ้นมาเป็นคนรักอันดับหนึ่งแทนอาเธอร์!” ดวงหน้าหวานเชิดขึ้นประกาศกราว “อาเธอร์ต้องเสียใจที่หนีออกจากบ้านและไม่ยอมกินอาหารฉัน!”
“ดะ..เดี๋ยวสิอังกฤษ” อเมริการ้องเสียงหลง “ทำไมคนรักอันดับหนึ่งถึงไม่ใช่ฉันแหละ อีกอย่างไม่มีเจ้าเหมียวนั่นแล้ว คนที่นายควรกอดคือฉันต่างหาก”
หนุ่มเมืองผู้ดีขมวดคิ้วอย่างตำหนิ
“อย่ามาเรียกอาเธอร์ว่าเจ้าเหมียวนั่นนะ”
“โกรธมันอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“โกรธก็ส่วนโกรธสิ” อังกฤษอธิบายด้วยเสียงจริงจัง “แต่ยังไงอาเธอร์ก็คือแมวของฉัน นายห้ามเรียกอาเธอร์แบบนั้นอีก”
“โอเคๆ แต่ยังไงคนที่นายควรกอดตอนนี้ไม่ใช่เจ้าตุ๊กตานั่นนะ” อเมริกาเหล่มองตุ๊กตาที่อังกฤษกอดอย่างไม่พอใจ แต่อีกคนไม่ได้สังเกตเห็นเลยสักนิด
อังกฤษกอดตุ๊กตายูนิคอร์นสีขาวตัวโตพลางลูบหัวที่มีเขาของมันเบาๆ ดวงตาสีเขียวเป็นประกายวิบวับ ก่อนจุ๊บลงบนหน้าผากกลมๆ
และนั่นทำให้เส้นความหึงหวงอเมริกาขาดในที่สุด
คนที่จะได้จูบจากอังกฤษคือเขาต่างหาก!
“อังกฤษห้ามจูบเจ้าตุ๊กตาประหลาดนั่นนะ!” มือหนารีบดึงเอาตุ๊กตาออกจากอ้อมแขนของร่างเพรียว “และฉันก็จะไม่ให้เธออยู่กับเจ้านี่แล้วด้วย”
นัยน์ตาสีเขียวตวัดควับมองเขาด้วยความโกรธก่อนจะกระชากตุ๊กตาคืน “ฉันจะอยู่กับแลนเซอร์ล็อต นายไม่ต้องมายุ่งเลย”
พูดจบเจ้าตัวก็เดินหนีเข้าห้องครัว ปล่อยให้อเมริกามองตามแผ่นหลังของอังกฤษอย่างอึ้งๆ ดวงตาสีท้องฟ้าเบิกค้าง
ดะ..เดี๋ยวสิอังกฤษ! นี่ฮีโร่ไม่ได้เจอกับเธอตั้งนานนะ! เธอควรจะโดดเข้ามากอดฉันแล้วพาไปจบที่เตียงไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลายเป็นกอดเจ้าตุ๊กตานั่นแหละฮะ!?
“อย่าเดินหนีฮีโร่นะ!!”
แต่มีรึคนที่เดินจากไปแล้วจะหันกลับมามอง
หลังอังกฤษพาตุ๊กตาไปหยิบเอาของทานเล่นในครัวออกมา อเมริกาก็นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนโซฟาตัวเดียวกับอังกฤษ มือหนาหยิบขนมขบเคี้ยวที่พึ่งแกะใส่ปากอย่างไม่สบอารมณ์ พลางเหลือบมองร่างโปร่งบางที่กำลังกอดตุ๊กตาจ้องมองไปที่โทรทัศน์อย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
พูดตามตรงก็คือไม่สนใจเขานั่นแหละ เพราะอังกฤษหยิบขนมป้อนเข้าปากยูนิคอร์นอย่างกับว่ามันกินได้!
มากเกินไปแล้ว!
“อังกฤษ ฉันหิวข้าว” ในที่สุดเขาก็พูดขัดออกมา ผิดกับที่เคยตั้งใจว่าจะไม่คุยกับอีกฝ่ายจนกว่าอังกฤษจะสำนึกว่าตัวเองผิด
“มีแช่อยู่ในตู้เย็น นายก็เอาไปอุ่นสิ”
“แต่ฉันอยากกินฝีมือเธอนิ” พูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ช้อนตามองเพื่อให้เกิดความน่าสงสาร ถ้าไม่ได้ด้วยการชนตรงๆก็ต้องใช้เล่ห์กลละนะ
คำพูดจากอเมริกาทำเอาอังกฤษหันมามองด้วยความแปลกใจ คิ้วหนาเลิกขึ้นอย่างนึกว่าตัวเองหูฝาด “เมื่อกี๊นายพูดว่าอะไรนะ?”
“ฉันบอกว่า ฉันอยากกินอาหารฝีมือเธอ”
นี่เขายอมอ่อนข้อให้แล้วนะ! ถ้าอังกฤษไม่ยอมรู้ตัวอีกเขาจะโกรธจริงๆแล้วด้วย!
“อ๋อ ฝ..ฝีมือฉันงั้นเหรอ” ร่างโปร่งบางยกมือขึ้นเกาแก้มซ่อนอาการเขิน แก้มเจือด้วยสีแดงจางๆ ทำให้คนมองตาวิบวับเป็นประกาย รอเวลาที่มือบางคู่นั้นจะปล่อยจากเจ้าตุ๊กตาประหลาดนั่นซะที จากนั้นพอลุกออกไปใส่ชุดกันเปื้อนทำอาหารเมื่อไหร่ เขาก็จะถือโอกาสกินคนทำอาหารขณะทำอาหาร
ฮ่า… ช่างเป็นความคิดที่ดีอะไรอย่างนี้
แต่แล้วทุกอย่างก็พังลงเมื่ออังกฤษหันไปให้ความสนใจกับรายการทีวีต่อ
“ไม่เอาอะ ฉันยังไม่อยากทำอาหารตอนนี้ซะหน่อย นายไปอุ่นกินเองเถอะ เกิดฉันไปทำอาหารแลนเซอร์ล็อตก็เหงาแย่สิ ใช่ไหมๆ ถ้าฉันไปนายต้องเหงาแน่ๆเลย เจ้าตัวน้อยคนดี”
ประโยคท้ายเจ้าตัวหันไปพูดมุ้งมิ้งกับตุ๊กตาในอ้อมแขน พลางยกขึ้นมาฟัดอย่างหมันเขี้ยว
อเมริกาอ้าปากค้างอีกรอบ ก่อนจะยัดขนมในมือใส่ปากอย่างหงุดหงิด!
โธ่เว้ย! นี่ฮีโร่อย่างเขามีความสำคัญน้อยกว่าเจ้าตุ๊กตานั่นอีกเรอะ!
หลังจากดูซีรีย์จบ ก็ถึงเวลาชายามบ่ายของอังกฤษพอดี ร่างโปร่งบางลุกขึ้นวางตุ๊กตายูนิคอร์นไว้บนโซฟา ก่อนจะหันมองอเมริกาที่ทำหน้าบูดบึ้ง มือหนายัดขนมขบเคี้ยวใส่ปากสลับกับยกขวดน้ำอัดลมขึ้นดื่มราวกำลังโกรธแค้นพวกมัน
“ฉันจะไปชงชา นายจะเอากาแฟรึเปล่า?” ปกติแล้วอเมริกามักจะกินกาแฟ เพราะไม่ชอบชา ทำให้อังกฤษต้องลำบากชงแยกกาแฟให้ ใบหน้าหวานอดทำหน้ารำคาญใจหน่อยๆไม่ได้เมื่อคิดว่าจะต้องชงแยก
ทั้งๆที่ชาของเขาก็ออกจะอร่อย ไม่เข้าใจจริงๆทำไมอเมริกาถึงไม่ชอบ เห็นตอนเด็กๆชมอย่างนู้นอย่างนี่ เกาะขาเขาพูดด้วยเสียงน่ารักว่าชาของอังกฤษอร่อยที่สุดในโลกเลย ทำไมโตมาถึงได้ไม่น่ารักแล้วนะ ให้ตายเถอะ เจ้าเด็กนี่ไม่น่าโตมาจริงๆเลย
หนุ่มชาวบริเตนจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด “ตกลงนายจะเอารึเปล่า? ถ้าไม่พูดฉันจะไปแล้วนะ”
“ไม่!”
“อ๋อ แล้วอย่ามาง๊องแง๊งจะเอาทีหลังล่ะ!”
พูดจบอังกฤษก็เดินเข้าไปในห้องครัวทิ้งให้อเมริกานั่งหน้าหงิกงอ ดวงตาสีท้องฟ้ามองไปที่ตุ๊กตายูนิคอร์นข้างตัวที่อังกฤษวางไว้อย่างอาฆาต ก่นด่าในใจด้วยความหงุดหงิด อยากจะจับแลนเซอร์ล็อตคนดีของอังกฤษไปโยนทิ้งเสียให้รู้รอด
ติดที่อังกฤษสั่งนักสั่งหนาว่าห้ามแตะต้องเจ้าตัวนี้
อ๊ากกก วันนี้อังกฤษควรจะกอดเอวเขาแน่น แล้วจบลงด้วยเขา ‘กอด’ อังกฤษบนเตียงสิ ไม่ใช่มานั่งดูอังกฤษให้ความรักกับคนอื่น ถึงคนอื่นที่ว่าจะเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิตก็เถอะ แต่คนรักของอังกฤษอันดับหนึ่งต้องเป็นฮีโร่อย่างเขาสิ!
ศัตรูหมายเลขหนึ่งอย่างเจ้าเหมียวออกไปแล้ว เขาจะไม่ยอมให้ตุ๊กตามาเหนือกว่าหรอกนะ!
ดวงตาสีท้องฟ้ากวาดมองรอบๆสลับกับมองศัตรูตัวใหม่อย่างคิดหาทางกำจัด
ทันใดนั้นไอเดียหนึ่งก็ปิ๊งขึ้นในหัวเมื่อมองน้ำอัดลมในมือ
หึหึหึ ถ้าหากอังเอิ๊ญบังเอิญเขาไม่ทันระมัดระวังทำน้ำอัดลมหกใส่ตุ๊กตาทั้งตัว แล้วบังเอิ๊ญบังเอิญไม่รู้ว่าตัวเองทำหกจนปล่อยให้คราบน้ำซึมเข้าผ้าจนยากจะซักออก
ผลจากความบังเอิ๊ญบังเอิญนี่อังกฤษจะต้องเลิกกอดตุ๊กตาตัวนี้อย่างแน่นอน
ไว้เท่าความคิด ประเทศหนุ่มรีบปฏิบัติการบังเอิ๊ญบังเอิญกำจัดศัตรูหัวใจทันที หลังมือกระตุกราดน้ำอัดลมใส่ เขาก็รีบเป่าลมจากปากให้น้ำบนตุ๊กตาแห้งซึมเข้าไปในผิวผ้าไวๆ
ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นแผนการที่เพอร์เฟ็คไร้ที่ติสมกับฮีโร่จริงๆ!
แม้วันนี้จะคิดว่าอังกฤษใช้เวลาชงชานานกว่าปกติ แต่อเมริกาก็ไม่ได้สนใจ ในหัวเต็มไปด้วยภาพตุ๊กตายูนิคอร์นเปื้อนคราบน้ำอัดลมถูกทิ้งบนถังขยะ
หลังจากมั่นใจว่าคราบเปื้อนแห้งจนฝังลึก เขาก็รีบตีหน้าร้อนรนวิ่งถือตุ๊กตายูนิคอร์นแลนเซอร์ล็อตอดีตคนดีของอังกฤษวิ่งไปหาเจ้าของบ้านในครัว
ก่อนผงะกับภาพตรงหน้า
อังกฤษกำลังนั่งลูบแมวพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์สีเทาเข้มที่กำลังกินอาหารในชาม ใบหน้าเปื้อนยิ้มของอังกฤษทำเอาอเมริกาคิ้วกระตุก
ท่าทีแบบนี้คงไม่ใช่คืนดีกับเจ้าแมวนี่แล้วนะ
…เจ้าเหมียวอาเธอร์ศัตรูหมายเลขหนึ่งกลับมายึดตำแหน่งแล้ว
“อ๊ะ อเมริกา” คนกำลังลูบขนแมวร้องทักเมื่อเห็นว่ามีคนเข้ามาในห้องครัว เจ้าตัวรีบชูดอกกุหลาบสีแดงในมือที่อยู่อีกข้างอย่างอวดๆพลางยิ้มร่า “นายดูสิ อาเธอร์เอาดอกไม้มาง้อฉันด้วย เป็นเด็กดีจริงๆ”
อังกฤษอุ้มอาเธอร์ที่กินอาหารแมวหมดแล้วมาหอมด้วยความเอ็นดูพลางพึมพำเป็นระยะๆว่า ลำบากแย่เลยที่ออกไปหาดอกไม้มาให้บ้างละ อาเธอร์เป็นเด็กดีทีสุดเลยบ้างละ รักอาเธอร์ที่สุดเลยบ้างละ
ก่อนจะถูกเมินไปมากกว่านี้ อเมริการีบกระแอมไอเรียกให้อังกฤษมาสนใจที่ตัวเอง
“พอดีฉันไม่ระวังทำน้ำหกใส่แลนเซอร์ล็อต” ตีหน้าเศร้าสักหน่อย ในขณะที่อีกคนในห้องแข็งค้างไปแล้วเมื่อเห็นเปื้อนแลนเซอร์ล็อตไปด้วยน้ำสีดำทั้งตัว ประเทศแดนเสรีภาพวางตุ๊กตายูนิคอร์นบนโต๊ะแล้วเดินเข้าไปโอบเอวกระซิบข้างหูคนกำลังช็อกด้วยน้ำเสียงระรื่น
“แต่ไม่เป็นไรหรอกนะ ฉันจะยอมให้นายกอดฉันแทนตุ๊กตาก็ได้ ถือเป็นการชดเชยไง”
“กอดนาย?” อังกฤษมุมปากกระตุกกึกๆ แต่อเมริกาก็ยังยิ้มกว้างฝันหวาน
“ช่าย ฮีโร่อุตส่าห์ยอมให้เธอกอดเลยนะ”
พออังกฤษกอดเอวเขา เขาก็จะได้อุ้มอังกฤษแล้วไปกอดบนเตียงบ้าง แผนการเยี่ยมยอด
“ฝันไปเถอะ!!”
พลัก!!
“โอ๊ย!”
อเมริกาโดดโหยงๆกุมหว่างขาที่ถูกเตะอย่างจัง ส่วนผู้กระทำฉีกยิ้มหวานหยดย้อยสะบัดหน้าเดินหนีอุ้มทั้งแมวทั้งตุ๊กตาออกไปจากห้องครัว
อ๊ากกกก แผนของฮีโร่ผิดตรงไหนเนี้ย!?
…………………………………………………
ตกดึก ภายในห้องนอน อังกฤษนอนกอดแลตเซอร์ล็อตนอนจ้องเพดานบนเตียง โคมไฟที่เปิดทิ้งไว้ให้แสงสีส้มสลัวๆส่องให้เห็นว่าข้างตัวมีเหมียวอาเธอร์นอนกรนฟี้ๆหลับอย่างเป็นสุขในขณะที่เจ้านายตาค้าง คิ้วหนาขมวดมุ่นด้วยความไม่สบายใจเล็กน้อย
โอเค เขายอมรับวันนี้ออกจะทำเกินไปหน่อยที่เมินใส่อเมริกา
ต..แต่ก็ไม่ใช่ความผิดเขาซะหน่อย คนผิดคือหมอนั่นต่างหาก!! แถมยังบังอาจทำแลนเซอร์ล็อตเปื้อนอีกด้วย กว่าจะซักออกเขาต้องลงแรงทำความสะอาดตั้งนาน
นิสัยอันธพาลชัดๆ สมัยเป็นเด็กน้อยยังน่ารักอยู่เลย ทำไมโตมาถึงได้นิสัยแย่ขนาดนี้นะ ให้ตายเถอะ!
แถมแทนที่จะมาขอโทษเขาดีๆกลับหนีหายไปไหนก็ไม่รู้
เขาก็แค่โมโหที่อเมริกาไม่ยอมติดต่อมาเกือบเดือน โอเค เขารู้ว่าเป็นเพราะงาน ก็เลยยอมลงให้แล้วไง ถ้าเป็นปกติไล่ออกจากบ้านตั้งแต่โผล่มาแล้ว เจอหน้ากันแทนที่เด็กบ้านั่นจะขอโทษสักนิดสักหน่อยที่หายไป แต่กลับเป็นยิ้มหน้าระรื่นเข้ามาหาเหมือนกับว่าที่ผ่านมาไม่คิดถึงกันซะงั้น หรือมีแต่เขาที่คิ.. ไม่สิ เขาก็สบายดี
ตัวแลนเซอร์ล็อตทั้งนุ่มทั้งเขาเวลากอดก็รู้สึกดีไม่เหมือนหมอนั่นที่ทั้งหนักแถมยังชอบมานัวเนียเวลากอดอีกต่างหาก
แถมขนของอาเธอร์ก็นุ่มมือ เวลามานอนบนตักให้ลูบเล่นก็สบายมือรู้สึกดีกว่าลูบผมนุ่มๆของหมอนั่นตอนนอนหนุนตักเขาตั้งเยอะ
เชอะ! สองคนนี้ดีกว่าอเมริกาชัดๆ
เห็นออกงานออกทีวีตั้งเยอะตั้งแยะ ติดต่อส่งข้อความหรือโทรมาบอกสักครั้งว่าติดงานจะเป็นอะไรไป ถ้าหากเขาไม่ไปหาแคนาดาจะรู้ไหมว่าไม่ว่าง
ไอ้เราก็รอไปเถอะ บางวันอุตส่าห์ตั้งใจทำอาหารเย็นเยอะกว่าปกติเผื่อจะโผล่มา บางวันอุตส่าห์ทำขนมที่ชอบไว้ให้แต่ก็ถูกปล่อยทิ้งไว้
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะความคิด อังกฤษขยับตัวลุกนั่งพิงหัวเตียงพร้อมๆกับที่ร่างหนาคุ้นตาจะเปิดเข้ามาในห้อง
แสงไปสลัวๆส่องภาพคนตรงหน้าพาเอาคนดวงตาสีเขียวกระพริบปริบๆ
อเมริกาอยู่ในชุดคลุมหมีสีน้ำตาลกำลังถือช่อดอกกุหลาบสีแดงเดินตรงมานั่งบนเตียงข้างๆตัว ใบหน้าเจ้าตัวแดงก่ำทว่าดวงตาสีท้องฟ้าใต้กรอบแว่นฉายแววมุ่งมั่นจริงใจ
“ขอโทษนะ อังกฤษ” วางช่อกุหลาบลงบนตักอังกฤษแล้วคว้ามือที่กอดแลนเซอร์ล็อตขึ้นมาจูบเบาๆพลางช้อนตาที่แฝงการอ้อนวอนมอง “ยกโทษให้ฉันนะ”
ราวกับกำลังมองหมีตัวโตหูลู่ลงด้วยความเศร้า
มุมปากอังกฤษสั่นกระตุก มืออีกข้างที่เป็นอิสระขยุ้มแลนเซอร์ล็อตแน่น บะ..แบบนี้มัน….
จะน่ารักเกินไปแล้ว!!
หนุ่มบริเตนคุมหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ พยายามกลั้นมุมปากไม่ให้ฉีกยิ้มและห้ามมือไม่ให้ไปขยำแก้มแดงๆของคนใส่ชุดหมี
มะ..ไม่หรอก แค่นี้จะยอมยกโทษให้ง่ายๆได้ไง ความแค้นของแลนเซอร์ล็อตล่ะ ห้ามหวั่น..
“อ๊ะ!”
หมีตัวโตขยับขึ้นมาทาบทับแถมยังปัดแลนเซอร์ล็อตออกจากตัวเขาแบบเนียนๆ นอกจากนี้ยังปัดมือไปโดนตัวอาเธอร์จนแมวสะดุ้งร้องแง๊วตื่นขึ้นมาก่อนจะเดินหนีออกจากห้อง
อังกฤษอ้าปากค้างกับการกำจัดศัตรูของคนบางคนแต่คนร้ายกลับทำท่าเหมือนทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิ๊ญบังเอิญยังคงขยับเข้ามาคลอเคลียราวกับเป็นลูกหมีตัวโต
“ขอโทษนะ” หมีตัวปลอมกระซิบข้างหูอย่างรับผิดแต่เสียงกลับแหบพล่าพาให้คนฟังหน้าร้อนฉ่า ริมฝีปากขบบนติ่งหูเบาๆก่อนไล่จมูกลงมาซอกคอพร้อมจุมพิตปัดป่ายปลุกผิวกายของร่างด้านใต้ให้ร้อนรุ่ม
“ฉันเห็นเธอเตรียมของไว้ทำอาหารเต็มตู้เย็นเลย”
“กะ..ก็ซื้อไว้งั้นๆแหละ อื้อ!” เสียงครางหวานหลุดจากลำคอเมื่อปลายนิ้วคนด้านบนเริ่มลูบไล้ร่างกาย ทั้งๆที่มีเสื้อผ้าหนากั้นไว้อีกชั้นแต่สัมผัสร้อนจากฝ่ามือหนากลับชัดเจนผะผ่าว อังกฤษหลับตาแน่นกลั้นอารมณ์ที่ถูกปลุกเหมือนรู้ทุกจุดบนร่างกายของเขาทำให้พลาดไม่เห็นรอยยิ้มขบขันจากหมีตัวโต
“อ๋อ… แล้วขนมในขวดโหลนั่นแหละ” อเมริกากระซิบพร้อมๆกับปลดชุดคนด้านล่างออกเผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่าเรื่อแดง
ดวงตาสีเขียวเบิกกว้างเมื่อรับรู้ถึงไอเย็นจากการถูกถอดชุดก่อนแว๊ดเสียงหลง
“ออกไปเลยเจ้าบ้า!”
“ตอบมาก่อนสิ” น้ำเสียงออดอ้อนกล่าวอย่างถามไถ่ แต่อังกฤษชักจะเห็นปีกกับหางปีศาจเริ่มปรากฏบนร่างหมีตัวโต ยังไม่ทันได้ขยับหนีมือ ทั้งสองข้างของเขาก็ถูกรวบเข้าหากันก่อนถูกดึงจนเซล้มเข้าปะทะกับแผ่นอกแกร่ง อเมริกากักร่างเพรียวไว้ในอ้อมแขนพร้อมกระซิบด้วยเสียงระรื่น “ตอบคำถามฉันมาดีๆ”
“ไม่ตอบซะอย่างจะทำไม”
คนเป็นรองเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนจะเสียงหลงอีกครั้งเมื่อมือหมีเริ่มซุกซนไปทั่วร่างอีกครั้ง ความร้อนพุ่งขึ้นสูงจนขยับเข้าหาคนตัวโตอย่างเผลอไผลตามความรู้สึกขณะที่สมองขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโห
“อะ..อื้อ ทำเล่นไปงั้นๆแหละ!”
คำตอบที่ได้รับทำเอาคนถามหลุดหัวเราะ
ตาลุงปากไม่ตรงกับใจ ช่างตอบมาได้…
ไหนจะเสื้อไหมพรมตัวใหม่ปักรูปธงชาติอเมริกาดูยังไงก็ทำให้เขาชัดๆ ไหนจะบรรดาน้ำอัดลมที่เขาชอบกินก็ซื้อมาไว้เต็มตู้ แถมแคนาดายังโทรมาบอกว่าอังกฤษตามไปถามข่าวคราวของเขาที่บ้านแคนาดาอีกต่างหาก
ตาลุงนิสัยแย่… ไม่ได้มีแต่เธอที่รู้สึกคนเดียวสักหน่อย
“ปะ..ปล่อยมือนะ!”
“ม่ายเอา… ยังไม่หมดคำถามสักหน่อย” อเมริกายิ้มเจ้าเล่ห์เลื่อนมือไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวที่ชูชันของคนด้านล่างขยับรูดรั้งไปมาพลางเลื่อนตัวขึ้นกระซิบถามเจ้าของตัวประกันในมือ
ต่อให้รู้สึกดีกับสิ่งที่อังกฤษทำให้ แต่เรื่องบางเรื่องเขาก็ยังหงุดหงิดใจอยู่ดี
โดยเฉพาะเรื่องนี้…
“ระหว่างฉัน เจ้าเหมียวนั่นกับตุ๊กตาจะเลือกอะไร…”
ปลายนิ้วโป้งกดลงบนปลายชุ่มฉ่ำ สกัดอารมณ์ที่กำลังพวยพุ่งให้อัดแน่นไร้ทางระบาย อังกฤษปรือตามองคนด้านบนด้วยความขุ่นเคือง ร่างกายบิดเร้าอย่างทรมาน แม้จะพยายามฝืนกายขยับหนีแต่คนเจ้าเล่ห์กลับยึดตัวไว้แน่นแถมยังปลุกปั่นให้ร้อนรุ่มยิ่งกว่าเดิมอีก
อันธพาลชัดๆ!
อังกฤษกรีดร้องในใจ ดวงตาสีเขียวคลอเชื่อมไปด้วยน้ำตา แกล้งกันขนาดนี้จะให้เขาตอบอะไรได้อีก เจ้าบ้าเอ๊ย!
“อึก! ละ..เลือกนาย”
เสียงเบาแหบโหยตอบอย่างอายๆ แต่คนขี้แกล้งก็ยังไม่หยุดมือ อเมริกากดจูบมุมปากพลางบอกให้พูดเสียงดังขึ้นอีก
“ก็บอกว่านายไงละ! เลิกแกล้งได้แล้ว อ๊ะ… อือ!”
ริมปากร้อนมอบจุมพิตหวานล้ำพาให้ล่องลอยพร้อมกับมือร้อนผ่าวที่กุมส่วนอ่อนไหวเร่งเร้าจนถึงขีดสุด เมื่อได้ถึงปลายทางภายในหัวก็ขาวโพลนพร่างพราย ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน
อเมริกาหัวเราะคิกคังพลางจูบขมับอังกฤษอย่างรักใคร่
ที่รักอันดับหนึ่งของคนๆนี้ เขาไม่ยอมมอบมันให้ใครหรอกนะ.
_________________________________________________
อยากแกล้งอ้วน… หะ!? อะไรนะ!? ทำไมตอนท้ายดูเหมือนท่านเต้อถูกแกล้งเหรอ ก็เพราะว่าท่านเต้อน่าแกล้งกว่าไง หุหุ > <